Chapter I : สสารและการวัด
@หน้าร้าน Ping-ka-Pong time/date: 11:30 am / Fri 6th 2012
การจำแนกสสาร - สารและของผสม
สาร (substance) คือ รูปหนึ่งของสสารที่มีองคประกอบแนนอนหรือคงที่ และมีสมบัติที่ชัดเจน เชน น้ำ แอมโมเนีย น้ำตาลทราย ฯลฯ
ของผสม (mixture) คือ ประกอบดวยสารตั้งแต 2 ชนิดขึ้นไป โดยที่แตละสารยังคงเอกลักษณของตนอยู เชน อากาศ น้ำอัดลม น้ำนม ซีเมนต ฯลฯ
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
- ของผสมเนื้อเดียว (homogeneous mixture) คือ ของผสมที่มีองคประกอบคงที่ตลอด
- ของผสมเนื้อผสม (heterogeneous mixture) คือ ของผสมที่มีองค์ประกอบไม่คงที่
การจำแนกสสาร - ธาตุและสารประกอบ
ธาตุ (element) คือ สารที่ไมสามารถแยกออกเปนสารอื่นดวยวิธีทางเคมีสัญลักษณของธาตุมักประกอบดวยตัวอักษร 1-3 ตัว
โดยตัวแรกเปนตัวใหญ ตัวถัดมาเปนตัวเล็กเสมอ เชน โซเดียม = Na, โคบอลต = Co
สารประกอบ (compound) คือ สารที่ประกอบดวยอะตอมของธาตุตั้งแต 2 ชนิดขึ้นไปมารวมกันทางเคมีในอัตราสวนที่แนนอน
เช่น น้ำ ประกอบ ด้วยไฮโดรเจน 2 สวน และออกซิเจน 1 ส่วน
การอ่านชื่อสารประกอบไอออนิก
1.สารประกอบธาตุคู่ คือ ถ้าสารประกอบเกิดจากธาตุโลหะที่มีไออนได้ชนิดเดียวรวมกับอโลหะ ให้อ่านชื่อโลหะที่เป็นไอออนบวก
แล้วตามด้วยชื่อธาตุอโลหะที่เป็นไอออนลบ โดยเปลี่ยนเสียงพยางค์ท้ายเป็น ไอด์ (-ide)
เช่น ออกซิเจน (Oxygen) -> ออกไซด์ (Oxide)
ไฮโดรเจน (Hydrogen) -> ไฮไดรด์ (Hydride)
คลอรีน (Chlorine) -> คลอไรด์ (Chloride)
ไอโอดีน (Iodine) -> ไอโอไดด์ (Iodide)
ถ้าสารประกอบที่เกิดจากธาตุโลหะเดียวกันที่มีไออนได้หลายชนิดรวมตัวกับอโลหะ ให้อ่ายชื่อดลหะที่เป็นไอออนบวกแล้วตามด้วย
ค่าประจะของไอออนของโลหะ ดดยวงเล็บเป็นเลขโรมัน แล้วตามด้วยอโลหะที่เป็นไอออนลบ โดยเปลี่ยนเสียงพยางค์ท้ายเป็น ไอด์ (-ide)
เช่น Fe เกิดไออออนได้ 2 ชนิดคือ Fe 2+ กับ Fe 3+ และ Cu เกิดไอออนได้ 2 ชนิดคือ Cu+ กับ Cu 2+ สารประกอบที่เกิดขึ้นและการอ่าน
ชื่อสารจะได้ดังนี้
CuS อ่านว่า คอปเปอร์ (I) ซัลไฟด์ [Copper(I)Sulfide]
Cu2S อ่านว่า คอปเปอร์ (II) ซัลไฟด์ [Copper(II)Sulfide]
FeCl2 อ่านว่า ไอรอน (II) คลอไรด์ [Iron(II) Chloride]
FeCl3 อ่านว่า ไอรอน (III) คลอไรด์ [Iron(III) Chloride]
เลขนัยสำคัญ (Significant figure)
หมายถึง จำนวนหลักของตัวเลขที่มีความหมายในปริมาณที่วัดหรือคำนวณไดเมื่อนับจำนวนเลขนัยสำคัญแลวเปนที่เขาใจกันวา
หลักสุดทายเปนคาที่ไมแนนอน เนื่องมาจาก ความละเอียดของเครื่องมือวัด
- กฎในการเขียนเลขนัยสำคัญ
1.เลขจำนวนเต็มที่ไมใชศูนยใหนับเปนเลขนัยสำคัญเสมอ
เช่น 853 cm มีเลขนัยสำคัญ 3 ตำแหน่ง
2. เลขศูนยที่อยูข้างหน้า หรืออยู่ระหว่างจุดทศนิยมหรือตัวเลขไม่นับ เป็นเลขนัยสำคัญ เพราะใส่เพื่อแสดงตำแหน่งจุดทศนิยมเท่านั้น
เช่น 0.00012 มีเลขนัยสำคัญ 2 ตำแหน่ง , 0.00000000235 มีเลขนัยสำคัญ 3 ตำแหน่ง
3.เลขศูนยที่อยู่ระหว่างตัวเลขให้นับเป็นเลขนัยสำคัญ
เช่น 1.0008 มีเลขนัยสำคัญ 5 ตำแหน่ง , 300568 มีเลขนัยสำคัญ 6 ตำแหน่ง
♥มีคำถามอะไรโพส์ไว่ในคอมเมนต์ได้เลยนะจ๊ะ :) แล้วจะทะยอยตอบให้ (づ ̄ ³ ̄)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น